23 ส.ค. 2558

เหตุเกิดที่ตักศิลา (ตอนที่4) : ความเรียงเพื่อสร้างความเข้าใจด้านโหราศาสตร์อย่างลึกซึ้ง





ดวงยามวันที่ 3 สิงหาคม 2558  เวลา 18.30-19.30น.

          ตัวยามนี้โหรกระจาบ ได้มองเห็นตนุยามเป็นดาวอังคาร ๓  มีตำแหน่งเป็นนิจ และดาวจันทร์ ๒ เจ้าเรือนศุภะไปอยู่เรือนพันธุ  โหรกระจาบจึงมองไปว่าเอ.....เช่นนี้น่าจะกลับบ้านเพราะห่วงครอบครัวละมั๊ง อย่างนี้ แม้กุมอาทิตย์ มหาจักรก็ไม่น่าที่จะมีงาน  อีกอย่างดาวเสาร์ ๗  เจ้าเรือนสหัชชะ ก็กุมลัคณ์กุมดาวเกตุ ๙ น่าจะเป้นยามเดินทางละมั๊ง เมื่อโหรกระจาบวินิจฉัยแล้วจึงตอบไปว่า

          “เห็นอยู่สองช่วง คือช่วงบ่าย สี่ ถึงบ่ายสี่ ครึ่ง   และช่วง  หกโมงเย็นถึง หกโมงครึ่ง “

          “ผู้หญิงคนนั้นเธอถึงถามกลับมาว่า “อาจารย์ค่ะ มันไม่มีอีกรอบหรือค่ะ”   เธอถามพร้อมกับมองตาโหรฯกระจาบ

          “อืมถ้าเลยเวลานั้นไปผมคิดว่าไม่น่าจะมีงานชัดเจนนะครับ ถ้าเป็นการต่อเนื่องจากเวลา 18.30 หนะใช่แต่หลังจากนั้นผมไม่เห็นอีก แต่ถ้าหมายถึงสามคน ก็น่าจะอยู่ในรอบบ่าย 4 ถึงบ่ายสี่ครึ่งครับ”

          “แค่นั้นหรือค่ะอาจารย์”  เธอถามอีกเพื่อยืนยัน

          “ใช่ครับ ตามวิชาผมคิดว่าเช่นนั้น” โหรกระจาบยืนยันเสียงหนักแน่น แล้วมองไปทางผู้หญิงผู้ที่ถามเรื่อง ซึ่งตอนนี้เธอกำลังค้นของในกระเป๋าถือออกมา เธอหยิบเอกสารออกมาแผ่นหนึ่ง

          “นี่ค่ะอาจารย์ใบนัดลูกค้าหนู  มีเวลา บ่าย 4   1คน    บ่าย สี่ครึ่ง 1คน  และ หกโมงครึ่งหนึ่งคนคะ  อาจารย์แม่นมาก แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเขาจะมาตามเวลา หนูขอนั่งรอลูกค้าตรงนี้ได้ไหมค่ะ แล้วเวลาของอาจารย์มีคลาดเคลื่อนไหมค่ะ”

“มีครับฤดูกาลนี้ เวลาจะคลาดเคลื่อนจากท้องฟ้าประมาณ  5-8 นาที ถ้าจะเอาแบบเผื่อเวลาด้วยก็น่าจะ บวกหน้า10 บวกหลัง 10ครับ   เชิญนั่งรอได้ครับ “

 โหรฯกระจาบคิดในใจว่า  ....อืมแรงจริงแม่คุณ... เอาตัวรอดได้อีกครั้งแล้วเรา แต่..ถ้าลูกค้าเธอไม่มาตามนัดเราคงเสียชื่อเป็นแน่  ไงๆก็รอดไปด่านหนึ่งละ
          โหรกระจาบก็ยิ้มให้ผู้หญิงที่ถามและ นั่งคุยกับลูกศิษย์คนอื่นต่อ จนเวลาล่วงเลย ไปในช่วง  15.50 นาฬิกา มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ผู้หญิงคนดั่งกล่าวก็รับสาย หลังจากรับสายเสร็จเธอก็หันมา

          “อาจารย์ค่ะ  ลูกค้าหนูโทรมาแล้วบอกว่ากำลังข้ามสะพานลอยอยู่อีกไม่เกิน 10นาทีจะถึงค่ะ  อาจารย์ค่ะ หนูขอลงเรียนค่ะ  วิชาอาจารย์แม่นใช้ได้ หนูจ่ายเงินเลยนะคะ” เธอพูดอย่างดีใจ และยื่นเงินค่าสมัครเรียนให้กับเจ้าหน้าที่ แล้วเธอก็รีบวิ่งลงไปรับลูกค้า

          โหรกระจาบถอนหายใจ บ่นพึมพำกับตัวเองว่า  เหนื่อยแท้คนเราแรงจริงแม่คุณ

          คุณนายสามสีพูดออกมาว่า    “อาจารย์ค่ะเธอเป็นหมอดูไพ่ยิปซีที่นั่งอยู่ข้างล่าง เธอดูดวงอยู่เป็นอาชีพ โดยทั่วไปเวลาทุ่มเศษเธอก็จะกลับบ้านค่ะ แต่งานนี้อาจารย์เจอลองของชัดๆ แต่ดีนะคะ อาจารย์เอาอยู่”

          “อืมอย่าคิดว่าเธอลองวิชาเลยครับ  การที่เรียนกับใครสักคน ถ้าคนคนนั้นไม่สามารถตอบคำถามเราได้ มันก็ไม่แปลกที่เราจะไม่เรียน  และไม่แปลกที่เราจะเลือกที่จะเรียนกับคนที่ตอบคำถามเราได้ เป็นธรรมดาครับ  แต่นี่ถ้าผมตอบไม่ถูก ผมก็ห่วงพวกคุณจะถูกเอาไปพูดในทางไม่ดีกับหมอดูที่อยู่ข้างล่างซึ่งก็มีหลายคน ครั้งนี้ถือว่าเป็นความแข็งแกร่งของวิชา  และวิชานี้เป็นวิชายามที่สามารถพยากรณ์ไล่เวลาได้   แต่มันเหนื่อยและที่สำคัญผมเองไม่นิยมทายอะไรที่เหนื่อยๆครับ  และพวกคุณไม่ต้องมาถามผมแบบนี้นะผมเหนื่อย”


          การไขว่คว้าหาครูที่จะประสิทธิประสาทวิชาให้นั้นก็ยากการที่จะพบครูที่ใช่ก็ยาก  สิ่งเหล่านี้มีบุพกรรมที่เรียกว่าวาสนาเป็นองค์ผูกพันธ์    การที่ศิษย์จะทดลองครู หรือครูทดลองศิษย์เป็นเรื่องสามัญ แต่ควรอยู่มารยาทในสังคมที่ถูกต้อง ครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นครั้งที่ผู้ที่จะมาเป็นศิษย์มาทดลองครู อีกครั้งหนึ่ง และก็ถือว่าคงเป็นวาสนาที่พยากรณ์ได้พอเอาตัวรอด  โลกของการศึกษาเล่าเรียนวิชาพยากรณ์ ก็ยังคงจะมีการสืบสานต่อไป จากรุ่นสู่รุ่น จวบจนสิ้นวาสนาแห่งวิชา

เขียนโดย อ.พายัพ วชิโร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น