24 ธ.ค. 2558

วิชาโหราศาสตร์พม่า (อังคะวิชาธาตุ)

วิชาโหราศาสตร์พม่า (อังคะวิชาธาตุ)
สอน โดยอ.ธนภัทร คูกนก (ศศิวะเนตร)

วิชาอังคะวิชาธาตุ (เลข 7 ตัวพม่า) เป็นวิชาที่ใช้สามารถบอกเหตุที่เกิดขึ้นอย่างใดอย่างหนึ่ง แล้วจะเกิดผลอย่างไร? ในเดือนใด? และพิธีกรรมเสริมดวงเพื่อทุเลากรรม อันเป็นวิชาศักดิ์สิทธิ์ของท่านปรมจารย์(พ่อครูดวงสุริยเนตร)ท่านใดที่ไม่รู้เดือนเกิดก็สามารถพยากรณ์ได้จากการถอดรหัสบัตรประชาชน 13 หลัก ซึ่งมีความแม่นยำสูง วิชานี้เป็นวิชาที่หาเรียนได้ยากและมีค่าเรียนค่อนข้างแพง แต่จัดทำการสอนที่นี่ที่เดียวในประเทศไทยและในโลก


เรียน ฟรี1เดือน !!!!!

เรียนทุกวันพฤหัส เวลา13.00-15.00

เริ่มพฤหัสที่ 7มกราคม59



23 ธ.ค. 2558

วิชาเลข 7 ตัว 9 ฐาน สอนโดย อ.กัลยภร พยากรณ์

วิชาเลข 7 ตัว 9 ฐาน
สอนโดย อ.กัลยภร พยากรณ์
===================

    วิชาเลข7ตัว9ฐาน เป็นอีกหนึ่งวิชาของโหราศาสตร์ไทย ที่มีมนต์เสน่ห์ในการทำนายดวงชะตาได้ถูกต้องแม่นยำ แม้เจ้าชะตาจะไม่รู้เวลาเกิดที่แน่นอนก็ตาม โหรก็สามารถทำนายเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งอดีตกรรมและปัจจุบันกรรม รวมไปถึงเรื่องราวในอนาคตของเจ้าชะตาได้อีกด้วย..

เริ่ม8มกราคม2559
ทุกวันศุกร์13.00-15.00




11 ธ.ค. 2558

สอนฟรี !!! การอ่านไพ่ออราเคิล ชุดแสงสุข ของ อาจารย์ สมบูรณ์สุข

ข่าวดี !!!! 


ใครสนใจเรียนวิชา การอ่านไพ่ออราเคิล ชุดแสงสุข ของ อาจารย์


สมบูรณ์สุข สอนโดย อ.พสุธร ศรศิลป์ หรือ อ.หนุ่ม ภาพไพ่พยากรณ์ 

!!!ไม่มีค่าใช้จ่ายครับผม จองด่วนรับจำนวนจำกัด

สนใจติดต่อ 092-313-2723


26 พ.ย. 2558

วิชาดูลายมือ สอนฟรี!!!!

ข่าวดี !!!! 
ใครสนใจเรียนวิชาดูลายมือ งานนี้พลาดไม่ได้ เรียนฟรี !!!ไม่มีค่าใช้จ่ายครับผม 
สอนโดย อ.รัช ดูลายมือฟรีทาง Facebook
วันเสาร์ที่ 19 ธันวาคม 2558 นี้
จองด่วนรับจำนวนจำกด !!!!



18 พ.ย. 2558

วิชาฮวงจุ้ย โดย อ.อานนท์ ภัทรกิจดำรงกุล

วิชาฮวงจุ้ย
อ.อานนท์  ภัทรกิจดำรงกุล
================

ภาคเบื้องต้น
      เรื่องธาตุทั้ง๕,การก่อเกิด,การพิฆาต,การส่งเสริม,เรื่องทิศทาง,การใช้เข็มทิศ(ล่อแก่),การใช้๘ทิศ,การใช้ดาว๙ยุค,การใช้ดวงจีนการปรับดวง,การดูชัยภูมิและวิเคราะห์ตัวอาคาร

** สอนทุกวันจันทร์เวลา ๑๓.๐๐-๑๕.๐๐น


ภาควิเคราะห์

     ศึกษาการใช้วิชาตามสูตรต่างๆในการวิเคราะห์และฤกษ์ยามหรือช่วงเวลาที่เหมาะสมเพื่อทำให้เกิดปฏิกิริยาที่เป็นมงคล





8 พ.ย. 2558

ผู้กล้าเผชิญหน้ากับความจริง


# ปัญญ์สุขยามเช้า((:
มีภาษิตฝรั่งเศสข้อความหนึ่ง
ซึ่งอ่านแล้วน่านำมาเป็นต้นแบบ
ท่านว่า
"นักผจญภัย
หากไม่ได้เผชิญกับสภาพ
ที่มืดมิดไร้ฝั่งฝา
เป็นระยะนานแสนนาน
เขาย่อมไม่มีโอกาส
ค้นพบแผ่นดินแห่งใหม่ได้เลย"
แผนฟ้านี้กว้างนัก
แม้หมอกหนายามอรุณรุ่ง
จะปิดบังทั้งโลกให้หม่นมัว
ก็ไม่อาจบังเบียดผืนฟ้า
อันไพศาลได้
การที่จะเป็นมนุษย์ปุถุชนคนสามัญ
หรือจะก้าวขึ้นสู่บังลังก์
อภิมหาบุรุษผู้เกรียงไกร
ขึ้นกับปณิธานที่ตั้งไว้
หาใช่
แหงนหน้าขอความเมตตา
จากฟ้ากว้าง
แล้วยังคงยืนเก้ๆกังๆ
ห่วงหน้าพ-วงหลัง
ไม่เริ่มลงมือทำในสิ่งที่ปรารถนา
ก็ย่อมได้มาซึ่งความว่างเปล่า
พึงสังวรไว้เสมอว่า
ขัยชนะอันสง่างาม
ย่อมเกิดกับบุคคล
ผู้ฉายโชนไปด้วยความมานะ
พยายามอย่างสูงส่งเท่านั้น
................................
มีความสุขเฮงๆรวยๆทุกวันคะ
เหม่ยหลิน ผู้เบิกบาน
0625499491

20 ต.ค. 2558

คำตอบจากกาลเวลา


สวัสดีเช้าวันจันทร์คะ
วันแรกของการทำงาน
ออกตัวดีมีชัยไปก่อน
ทำงานด้วยความรัก
ด้วยความสุข
ทำเต็มที่. แล้วยิ้มรับกับผลงานที่เกิดขึ้น
สุขตลอดวันทำงานกันคะ เพื่อนๆ

# ปัญญ์สุขยามเช้า((:
หลายคนชอบท่องเที่ยว
นานมาแล้ว
คนเขียนไม่เคยปฏิเสธการเดินทาง
คิดว่าการเดินทาง
ทำให้ได้เปลี่ยนบรรยากาศ
ให้เห็นสิ่งแปลกใหม่
ให้ได้รับคำตอบในปวงปัญหาที่คาใจ
ถึงกับเคยออกเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเล
เพียงหวังว่าความทุกข์ที่ทับถม
ในใจจะเลือนลางจางหาย
ครั้นพอกลับมาบ้าน
ทุกข์นั้นก็ยังอยู่ปกติเช่นเดิม
สรุปว่า
การเดินทางนั้นหาได้แก้ทุกข์ไม่
เพราะคำถามของชีวิต
หาได้เหมือนโจทย์คณิตศาสตร์
ที่ตายตัวแน่นอน
มันต้องใช้เวลา
ใช้การพบ การจาก การพลัดพรากสูญเสียเป็นตัวกำหนด
เคยมั้ย
บางคำตอบดันโผล่พ้นขึ้นมา
ตอนที่เราไม่สนใจในคำตอบนั้
บางคำถามใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อ
จะได้คำตอบมา
เชื่อเถอะว่า
บางคำถามจะได้คำตอบ
ในขณะที่ลมหายใจสุดท้าย
กำลังจะขาดห้วงไปแล้ว
ราวกับว่า
ถ้าเราเฉยๆกับคำตอบอันแสนวิเศษ
มันจะผุดขึ้นมาเอง
หรือคุณจะมีความคิดเห็น
เป็นอื่นใด
เชิญแชร์!!
............................


มีความสุขเฮงๆรวยๆทุกวันคะ
เหม่ยหลิน ผู้เบิกบาน
062-549-9491

17 ต.ค. 2558

วัฏจักรของสุขและทุกข์สู่ความเป็นเช่นนั้นเอง



ความสุข หากใคร มีได้ตลอดเวลา

นั้นคงจะดีไม่น้อย...แต่ความสุข มักมาคู่กับความทุกข์

...ที่ไหนมีความสุขย่อมมีทุกข์เกิดตามมา 

..เช่นกัน ที่ไหนมีทุกข์ ไม่ช้า ความสุขก็จะตามมาเช่นกัน 

คงไม่มีที่ใคร ที่จะมีแต่ความสุข อย่างเดียว ตลอดเวลา

และ คงไม่มีใคร ที่จะพบแต่ความทุกข์อย่างเดียว ตลอดเวลา

โดย อ.พสุธร ศรศิลป์ (อ.หนุ่ม ภาพไพ่พยากรณ์)

16 ต.ค. 2558

สิ่งที่อยู่ใกล้แล้วมีความสุข


สวัสดีเช้าวันศุกร์คะ
เช้าแห่งความสุข
นำบทความดีๆมาฝากคะ
# ปัญญ์สุขยามเช้า((:
มีคำถามจากนักศึกษาที่สนใจ
ข้อหนึ่ง เขาถามว่า
"ผู้คนควรอยู่ใกล้อะไรจึงจะมีความสุข"
ตอบโดยไม่ลังเลสงสัยเลยว่า
ควรอยู่ใกล้ธรรมะ
....ก็ธรรมะนั้นอยู่รอบตัว
และอยู่ในตัวเรา
ทุกเรื่องที่เกิดขึ้นนั้น
ล้วนคือธรรมะ
จงอยู่ใกล้ธรรมะ
เพื่อจะได้เรียนรู้จักตนเอง
รู้จักธรรมชาติที่แท้ของชีวิต
รู้ว่านี่คือการหลอกลวง
หลอกให้หลง ลวงให้เชื่อ
ว่าเรียนโน่นนี่นี้นั่นแล้วจะร่ำรวย
จุดอ่อนของมนุษย์คือ
ไม่ชอบมองเข้ามาหาตัวเอง
ชอบแสวงหา เงินทอง
ความสุข
และไม่เคยเข้าไปคลายปมทุกข์
จากด้านในเลย
อีกอย่างขอให้อยู่กับความดี
เชื่อในความดีของตนเอง
เชื่อว่าเราจะสามารถเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีได้
พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า
"พึงเอาชนะความโกรธด้วยความดี
เอาชนะความตระหนี่ด้วยการให้
เอาชนะคำเทจด้วยความสัตย์"
ขอสิ่งนี้จงเป็นวัตรปฏิบัติ
ของทุกท่าน
ด้วยจิตวิญญาณแห่งความหลุดพ้น
..................................
มีความสุข เฮงๆรวยๆทุกวันคะ
เหม่ยหลิน ผู้เบิกบาน

เขียนโดย อ.เหม่ยหลิน พยากรณ์

15 ต.ค. 2558

จงเชื่อมั่นในศักยภาพของตน


สวัสดียามเช้าวันพฤหัสคะ
บทความวันนี้
อ่านช้าๆ แล้วลงมือทำ
สร้างความสำเร็จให้ตัวเอง
ทุกคนต้องผ่านช่วงเวลา
ของการทดสอบ

ผ่านบทเรียนอันยิ่งใหญ่
เรามีหน้าที่ลุกขึ้นยืนอย่างเข้มแข็ง
และเดินต่อไป ด้วยใจที่มุ่งมั่น
เป็นกำลังใจให้กันและกัน
พบกันที่ปลายทางแห่งฝันคะ

# ปัญญ์สุขยามเช้า((:
ขอยกมือสนับสนุนคำพูดของ
บิล เกตต์ที่ว่า "การเกิดมาจน นั้นไม่ใช่ความผิดแต่ถ้าตอนจากโลกนี้ไป ก็ยังจน นั่นแหละความผิดอย่างใหญ่หลวง"
หากเป็นคนจน วุฒิการศึกษาจะสำคัญมาก แต่ถ้าเป็นคนรวย ไม่มีใครถามถึงวุฒิการศึกษา
หนำซ้ำยังจะยกป้ายสรรเสริญอีกว่า
ขนาดเรียนจบแค่ชั้นประถมยังรวยล้นฟ้า
ช่างน่าสรรเสริญเสียจริง
มนุษย์ทุกคนเกิดมา
"มีสองขามายืนบนผืนภพ
มีตาครบคู่สมองมาส่องหน
มีสองมือถือพิทักษ์รักษาตน
มีกมลมีไว้เพื่อเชื่อตนเอง"
จงมีความเชื่อ
ในศักยภาพของตนเอง
ความสามารถของตนเอง
ความเก่งกล้าสามารถของตนเอง
เพื่อก้าวสู่บัลลังก์แห่งความร่ำรวย
อย่าพกความผิดไปถึงชาติหน้า
หากยังจนอยู่
ยังเป็นหนี้เป็นสินอยู่
รีบรีเซ็ทชีวิตใหม่
บอกตัวเอง ลงมือปฏิบัติเอง
ว่า ชาตินี้..ต้องรวยให้ได้...
ด้วยความสามารถของตัวเอง
.,,................................

มีความสุข. เฮงๆรวยๆทุกวันคะ
เหม่ยหลิน ผู้เบิกบาน

เขียนโดย อ.เหม่ยหลิน พยากรณ์

11 ต.ค. 2558

วิชา พื้นฐาน เลข ๗ ตัว ๙ ฐาน

วิชา พื้นฐาน เลข ๗ ตัว ๙ ฐาน
==========================
วัน เดือน ปี บอกที่มาของเรา บอกบุคลิค บอกกรรมเก่าที่ต้องกลับมาแก้ไข เรียนรู้เพื่อให้รู้ที่มา ว่าทำไมชืวิตจึงเป็นเช่นนี้ เรียนเพื่อให้รู้ว่า เรามีจุดอ่อน. จุดแข็งอย่างไร เรียนรู้พื่อการวางแผนชีวิตให้ประสบความสำเร็จ 
สุดท้าย รู้เขารู้เรา รบกี่ครั้ง ก็ชนะ เรียนง่าย ฝึกพยากรณ์จริง
สอนโดย อ.เหม่ยหลิน พยากรณ์

หลักสูตร 3 เดือน
เริ่ม ๑๕ ตุลาคมนี้ !!!!
สนใจติดต่อ
อ.โหรปริญญาโท 092-313-2723




10 ต.ค. 2558

ไพ่ออราเคิล ชุดแสงสุข เรียบง่ายแต่ทรงพลังในการพยากรณ์



    ไพ่ออราเคิล ชุดแสงสุข เป็นไพ่ภาพสำหรับการพยากรณ์ ในลักษณะการเสี่ยงทาย เราจะเสี่ยงทาย โดยการหยิบไพ่ แล้วเอาไพ่มาอ่าน มาทาย ผู้จัดทำคือท่านอาจารย์สมบูรณ์สุข ได้ลองเปรียบเทียบในการเสี่ยงทายไพ่ กับการ เสี่ยงหยิบไม้เซียมซี คล้ายๆกัน แต่ต่างกันตรงที่ เซียมซี มีข้อความในแต่ละเบอร์บอกอยู่ แต่ไพ่เป็นภาพ เราก็จะอ่านจากภาพแทนการอ่านข้อความ


    แค่ฟังเท่านี้ก็น่าสนุกและน่าติดตามแล้ว ลองมาค้นหาความสนุกได้ด้วยตัวท่านเอง แบบง่ายๆ ไม่ยากจนเกินไป ที่จะนำไปใช้พยากรณ์ตัวท่านเองหรือคนใกล้ชิด

คัดลอกส่วนหนึ่งจากบทความของท่านอาจารย์สมบูรณ์สุข ในคู่มือไพ่ออราเคิล ชุดแสงสุข

โดย อ.พสุธร ศรศิลป์ หรือ อ.หนุ่ม ภาพไพ่พยากรณ์




6 ต.ค. 2558

วิชา การอ่านไพ่ออราเคิล ชุดแสงสุข ของ อาจารย์สมบูรณ์สุข

วิชา การอ่านไพ่ออราเคิล ชุดแสงสุข ของ อาจารย์สมบูรณ์สุข
สอนโดย อ.พสุธร ศรศิลป์ หรือ  อ.หนุ่ม ภาพไพ่พยากรณ์

มาร่วมเรียนรู้การอ่านไพ่พยากรณ์ เพื่อเป็นแนวทางเป็นแผนที่ ในการดำเนินชีวิตให้กับตัวเองและคนรอบข้างแบบง่ายๆได้ด้วยตัวคุณเอง และสามารถต่อยอดใช้ในการอ่านไพ่ออราเคิลอื่นๆในขั้นระดับมืออาชีพ
ใครๆก็เรียนได้แม้ไม่มีพื้นฐานในศาสตร์พยากรณ์มาก่อน
มาเรียนกับเราสิครับ

สอนทุกวันอังคารเวลา๑๐.๐๐-๑๒.๐๐

เรียน๒เดือนๆละ๙๐๐บาท








อ.หนุ่ม ภาพไพ่พยากรณ์ให้ดูตั้งแต่นาทีที่ 18.50 ขึ้นไป



25 ก.ย. 2558

เรื่องเล่าจากโหรป.โท : ตอน เรื่องทุกข์ของชายหนุ่ม



พ่อแม่เมื่อลูกเรียนจบก็หวังให้ลูกได้มีงานดีๆ และมั่นคงทำ

โดยเฉพาะครอบครัวของหนุ่ม

เขาเป็นคนจังหวัดสตูล

พ่อแม่มีอาชีพรับจ้าง

อดทนหาเงินส่งเสียจนเขาจบปริญญาตรี

ด้วยเหตุนี้จึงเป็นแรงกดดันที่ทำให้หนุ่มต้องเดินหน้าตาอิดโรยมาหาฉัน

บอกว่าอยากให้ฉันดูดวงให้

ฉันผูกดวงเขาอยู่เขาว่าผมมี ๑๐๐ บาทดูไดไหมครับ ?

ฉันมองหน้า

เขาเป็นคนขึ้นชื่อว่าหน้าตาดี ตัวสูงผิวคล้ำ ตาคมตามลักษณะคนใต้

แววตาหม่นหมอง คล้ายคนอดหลับอดนอนมาหลายคืนแล้ว

เห็นแล้วฉันสงสารจับใจ

ฉันเอ่ยถามอย่างห่วงใย คงทุกข์หนักสิลูก

แต่ปากฉันก็บอกว่า ได้ แล้วเราก็คุยกันเรื่องดวงชะตาของเขา

เขาเล่าว่าเขากุ้มใจมาก

เพราะครอบครัวหวังในตัวเขามากเขาไปสอบนายสิบ

มาดูแล้วจะสอบได้ เขาว่าเขาทำข้อสอบได้ดีมาก

คะแนนที่แจ้งมากลับเป็นคะแนน ที่ห่วยมาก

เขาไม่เขื่อพร้อมกันนั้นก็พูดไปเรื่อยๆเหมือนคนขาดสติดิฉันก็ได้แต่ ฟัง

จนเขาดึงสติกลับมาได้

ฉันจึงบอกให้เขาชงกาแฟดื่ม

กาแฟหมดแล้ว เขาจึงดื่มน้ำแทน

ดื่มไป ก็ระบายความในใจที่อัดอั้นออกมาอย่างต่อเนื่อง.......

จนในที่สุดเขาก็ยิ้มได้

ฉันเลยถามเขาว่าหิวข้าวไหม

เขาว่าเขาไม่มีตังค์กินข้าวแล้ว

เพราะใช้เงินในการดูหมอมาหลายเจ้าแล้ว ฉันได้แต่เพ้อว่า

โธ่ลูกเอย.

ฉันจึงเอาเงินค่าครูในพานให้. แล้วบอกให้เขาไปหาข้าวกิน

เพราะมันบ่ายแล้ว

ฉันเองก็หิว

เขายกมือไหว้ลาด้วยรอยยิ้มเศร้าๆ ตาลอยๆ

ฉันได้แต่บอกว่า ปล่อยวางบ้างเถอะหนุ่ม

นั้นคือ คำตอบสุดท้าย ที่ฉันตั้งใจมอบให้กับชายหนุ่มคนนั้น

----------------------------------------------------------------

เขียนโดย โหรป.โท


13 ก.ย. 2558

คุยกับโหรปริญญาโท ตอน : ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเจตนา


เจตนา คือ ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้การกระทำไปสู่ทิศทางที่ถูกต้องหรือผิดทาง

เวลาว่างไม่ค่อยตรงกันนักแต่เมื่อมีโอกาสผมก็ดพูดคุยกับ โหรปริญญาโทรถึงเรื่องราวทั่วไปที่ผมยังมีข้อสงสัยในเรื่องของวิชาโหราศาสตร์ ตามประสาคนรู้น้อยแต่ชอบเรียนรู้อย่างผม

ผม : สวัสดีครับโหรป.โท ช่วงนี้ดูงานยุ่งๆนะครับ

โหรป.โท : ใช่จ๊ะช่วงนี้มีคนมาเรียนที่สถาบันพัฒนาวิชาโหราศาสตร์ ตักศิลาโหราแทบทุกวันค่ะ เริ่มมีคนรู้จักมาจากทางเน็ตและจากการบอกต่อจากคนที่เคยมาเรียนมากขึ้น

ผม : ดูจากตารางเรียนล่าสุดนี้ เปิดเกือบทุกวันเลยนะครับ

โหรป.โท : จริงๆอยากเปิดทุกวันค่ะ แต่ที่ขอหยุดวันพฤหัสก็เพื่อที่จะไปเรียนรู้เพิ่มเติม เพิ่มพูนในแนวเชิงลึกมากขึ้น เพื่อนำมาพัฒนาหลักสูตรให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ผม : นี่ขนาดเป็นอาจารย์แล้วนะครับ

โหรป.โท : ยิ่งเป็นระดับอาจารย์เรายิ่งต้องเรียนรู้มากขึ้นค่ะ เพราะอย่างที่เขียนพูดไว้คร่าวที่แล้วว่า วิชาโหราศาสตร์เป็นวิชาที่เรียนรู้ได้แบบไม่มีวันจบสิ้น เราจะต้องเรียนรู้ ต่อยอด ฝึกฝนอย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนาตนเองเป็นโหรที่ทรงคุณค่าอย่างแท้จริง

ผม : ยอดเยี่ยมเลยครับสำหรับวิธีคิดแบบนี้ ขอชื่นชมครับ

โหรป.โท : ขอบใจจ้า

ผม : ผมมีข้อสงสัยอย่างหนึ่งที่อยากจะสอบถามและคาใจมากๆเลยครับ เกี่ยวกับการดูดวงของหมอดู คือว่า ผมเห็นหมอดูบางคนสร้างบรรยากาศการดูดวงด้วยน้ำเสียง อุปกรณ์ประกอบ และก็อ้างสิ่งศักดิ์สิทธิ์เช่น องค์เทพต่างๆ เพื่อที่จะเพิ่มความน่าเชื่อถือ และเรียกเก็บเงินแพงๆ ซึ่งหลายคนก็หลงเชื่อและยินยอมเสียเงิน หมอดูแบบนี้เขายังไงครับ ผมอยากทราบ

โหร ป.โท : เป็นคำถามที่ดีมากและเป็นคำถามที่ถามที่หลายคนถามฉันบ่อยๆ ก่อนอื่นฉันจะถาทกลับก่อนว่า คนที่มาดูหมอส่วนใหญ่เป็นคนแบบไหน ทุกข์หรือสุขมากกว่า?

ผม : ทุกข์แน่นอนครับ เท่าที่ผมรู้มาคนมีความสุขไม่ค่อยวิ่งไปหาหมอดูนะครับ ส่วนใหญ่มีปัญหาหนักๆไปหาทั้งนั้น

หมอดูป.โท : ใช่แล้ว คนที่มาหาหมอดู คือ คนที่มีปัญหาและปัญหาที่มีหนักมากสำหรับเขา เขามาหาหมอดดูด้วยความคาดหวังว่าจะพบเจอทางออก แต่หากมาพบเจอหมอดูประเภทที่หลอกลวง อ้างเทพองค์โน่นนี้เพื่อยกตัวเองให้สูงจนคนอื่นหลงเชื่อ จนต้องเสียเงินเสียทองไปมากมาย มันเหมือนกับว่ากำลังซ้ำเติมเขาให้ทุกข์หนักไปกว่าเดิมอีก

ผม : ผมเห็นด้วยครับเรื่องนี้ มันเหมือนเป็นการซ้ำเติมจริงๆ  ผมนึกถึงคราวที่แล้วที่คุยกันว่า หมอดูเหมือนกับที่ปรึกษาหาทางออกของปัญหาหรือจิตแพทย์คนหนึ่ง หากหมอดูมีเจตนาหลอกลวงก็เหมือนกับซ้ำเติมให้เขาทุกข์หนักไปอีก แทนที่จะเจอทางออก กลับไปเจอทางตันแทน

หมอดูป.โท : แต่จริงๆแล้วหมอดูประเภทชอบหลอกลวงถือว่าเป็นส่วนน้อยมากๆในวงการนะ แต่ก็เหมือนกับวงการอื่นๆนั่นละ ที่ปลาเน่าตัวเดียวเหม็นกันไปทั้งข้อง แต่สิ่งดีๆที่มีเยอะรอให้เราศึกษาอยู่นะคะ

ผม : แล้วเรื่ององค์เทพหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่หมอดูที่เขาชอบใช้อ้างกัน ตรงนี้อยากให้ขยายความนิดหนึ่งครับ

หมอดูป.โท : อ๋อคะ ตรงจุดนี้ก็เคยคุยกับระดับครูบาอาจารย์ท่านเคยบอกอย่างมีเหตุผลว่า องค์เทพนั้นท่านอยู่สูง ไม่น่าจะลงมาประทับร่างมนุษย์ที่ยังเต็มไปด้วยความสกปรกของกิเลส ตัณหา เช่นนี้หรอกคะ

ผม : อืม...น่าคิดให้ลึกๆนะครับประเด็นนี้

หมอดูป.โท : การที่จะยึดหมอดูเป็นอาชีพแบบระยะยาวจนลมสุดท้ายของชีวิต เราต้องสร้างคุณค่าผ่านการช่วยเหลือคนด้วยเจตนาที่ดี ไม่ใช่เจตนาที่จะคอยเฝ้าแต่จะหลอกลวงเงินคนที่เขากำลังทุกข์ร้อนอยู้แล้ว ซึ่งผิดกฎจรรยาบรรณการเป็นหมอดูอย่างรุนแรง

ผม : ครับผม ผมเห็นด้วยมากๆ ครับ วิธีคิดแบบนี้ไม่ได้ใช้ได้เฉพาะวงการอาชีพหมอดดูเท่านั้น วงการอาชีพอื่นๆก็จำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกคนต้องทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด ด้วยเจตนาที่ดีต่อตนเองและผู้อื่นเพื่อความยั่งยืนของวิชาชีพของตนด้วย ผมต้องขอขอบคุณ หมอดูป.โทมากๆนะครับที่ให้แง่คิดดีๆในครั้งนี้ โอกาสหน้าผมจะขออนุญาตมาคุยแลกเปลี่ยนกันอีกครั้งครับ ขอบคุณครับ


10 ก.ย. 2558

ความเป็นมาของวิชาโหราศาสตร์



      วิชาโหราศาสตร์  เป็นวิชาพยากรณ์ ที่ใช้อิทธิพลจากดวงดาวที่โคจรรอบจักราศี เป็นวิชาที่มีหลักฐานมีเหตุและผลต่อกันมีความทันสมัยคงที่ถาวรตลอดเวลา คู่ไปกับโลกเป็นวิชาที่แสดงผลจากอิทธิพลของดวงดาวที่ทำให้สรรพสิ่งที่อยู่อยู่ในโลกนี้ ซึ่งเป็นวิชาคำนวนวิถีโคจร ขนาดน้ำหนักระยะฯลฯ ของดวงดาวในจักรวาล ซึ่งมีช่วงแห่งความสว่าง ความรุ่งโรจน์ ความร้อนการดึงดูดและพลังงานอื่นๆเช่นเดียวกับดวงดาว วิชาโหราศาสตร์มีมาแล้วมากว่า๒๐๐๐ปีก่อนพุทธกาล ดังนั้นโหราศาสตร์จึงเป็นวิชาที่เกี่ยวกับศาสตร์อันลึกซึ้งชวนติดตามและอาจนับเนื่องอยู่ในไสยศาสตร์อยู่บ้าง


      เป็นที่ยืนยันตามหลักฐานทางพุทธประวัติที่กล่าวไว้ว่า
เมื่อครั้งพระพุทธเจ้าประสูตินั้น พราหมณ์อสิตดาบสหรือกาฬเทวินดาบส
เมื่อได้เห็นเจ้าชายสิทธัตถะมีลักษณะของมหาบุรุษจึงทำนายทายทักว่า
ถ้าครองเรือนจะเป็นจักรพรรดิผู้ทรงบรมเดชานุภาพแผ่ไพศาล
แต่ถ้าออกบวชจะได้เป็นพระศาสดาผู้มีชื่อเสียงที่สุดในโลก
กาลเวลาถึงปัจจุบันจึงพิสูจน์ถึงความแม่นยำของการทำนาย
และความเป็นมาของวิชาโหราศาสตร์

      การทำนายเกิดขึ้นได้ด้วยการสังเกต จดจำ และทดลองจนหาข้อสรุปได้ตามความเป็นจริงที่ท่านบูรพาจารย์ทำสืบทอดกันมาซ้ำๆจนกลายเป็นสถิติ อาศัยการคำนวณจากอิทธิพลของดวงดาว ธาตุ และจักราศี เป็นสูตรพยากรณ์ชีวิตมนุษย์และสัตว์ตลอดจนวัตถุ

โหราศาสตร์ ในประเทศไทย
สันนิษฐานว่าโหราศาสตร์เข้าสู่ประเทศไทยประมาณปีพ.ศ.๒๐๐ เพราะการขยายอาณาเขตทางภาคใต้ของพระเจ้าอโศกมหาราช ทำให้พราหมณ์พาพระเวทย์หนีเข้าเขมร เมื่อไทยอพยพมาจากจีนอยู่ประเทศสยามจึงได้รับการถ่ายทอดวิชาโหรพร้อมกับลัทธิทางศาสนาและพิธีพราหมณ์ด้วย อันมีพระโสณะเถระและพระอุตระเถระมาเผยแผ่พระพุทธศาสนา

เมื่่อถึงยุคสุโขทัยและกรุงศรีอยุธยาก็ยกย่องพราหมณาจารย์ขึ้นเป็นมหารครูทำการพิธีมงคลต่างๆ ต่อมาสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ โหราจารย์ได้รวบรวมกันขึ้นมา แต่คงอยู่ในราชสำนักเท่านั้น
ตำราต่างๆจึงจะปรากฏอยู่ที่กรมโหรและพระผู้ใหญ่ในยุคนั้นๆ พิธีกรรมต่างๆกรมโหรได้เลิกไปเมื่อไม่นานมานี้ส่วนวิชาโหราศาสตร์กลับยิ่งมีคนสนใจมากขึ้นปัจจุบันประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงวิชานี้ได้จึงทำให้มีการพัฒนาวิชานี้มากยิ่งขึ้น


ประเทศอินเดียได้ออกกฏหมายเมื่อ พ.ศ.๒๕๑๔ให้สอนวิชาโหราศาสตร์ในมหาวิทยาลัยได้ปัจจุบันประสาทปริญญาตรีถึงปริญญาเอก

เขียนโดย
อ.โหรปริญญาโทร

8 ก.ย. 2558

ลัคนา..ต่างจากราศีอย่างไร?


ลัคนาคำนี้เราได้ยินกันบ่อย
       เวลาไปดูดวง..อาจารย์ที่ดูก็บอกเราว่า เราเป็นคนราศีนั้น..หรือบอกว่า..เป็นลัคนานั้น..หรือไม่ก็เวลาเราไปอ่านดวงตามนสพ.หรือนิตยสาร ต่างๆ ก็จะบอกว่าเราเกิดราศีอะไร..ตามวันที่เราเกิด...แต่บ่อยครั้งที่เราอ่านหนังสือต่างเล่มกัน...ลัคนาตามวันที่เขียนไว้ก็ต่างกันด้วย...เช่นบางเล่มบอกว่าราศีเมษคือคนที่เกิดวันที่13เมษา-14พฤษภา...แต่บางเล่มก็บอกว่า..ราศีเมษคือคนที่เกิดวันที่12มีนา-22เมษา...อย่างนี้ก็ทำให้เราสับสนเหมือนกัน...
       
          แต่บางคนก็นึกว่าตนเองเกิดลัคนาราศีเมษเพราะว่าเกิดช่วงเมษา...แต่พอไปดูดวง..หมอดูก็ผูกดวงวางลัคนาเข้าให้...ก็ปรากฎว่าเป็นลัคนาตุลย์..ก็ทำเอาเรางงไปตามๆกัน
          ลัคนา..คือลัคน์...เวลาเขียนลงไปในรูปดวงราศีจักร ก็จะใช้คำย่อ..ว่า  ลั   ก็เป็นอันเข้าใจว่า ลัคนา ความหมายของคำว่า ลัคนา คือ ตัวตนของเรา บุคคลิกของเรา จิตวิญญาณ ร่างกาย นิสัย...ลัคนา..คำนวนจากเวลาตกฟากหรือเวลาเกิด..ผสมกับวันเดือนปีที่เกิด...ก็จะได้เวลาที่กำหนดเป็นลัคนา....ดังนั้นเวลาใน1วัน..ไม่ว่าจะเดือนใด..ปีใด..ก็ตาม..ก็มีเวลาที่เป็นลัคนาได้ทั้ง12ราศี...เช่นคนเกิดวันเดือนปีเดียวกัน...แต่ต่างเวลากันก็ทีลัคนาต่างกัน...และถ้าหากคำนวนสถานที่เกิดไปด้วยก็จะยิ่งละเอียดชัดเจนมากยิ่งขึ้น

           ส่วนราศีเกิดที่เราอ่านตามหน้านสพ.หรือนิตยสารนั้นจะใช้พระอาทิตย์เป็นตัวกำหนด..เพราะผู้เขียนเค้าไม่รู้หรอกว่าเราเกิดเวลาตกฟากอะไร..ก็เลยใช้วันเดือนปีเกิดเป็นตัวกำหนด..ซึ่งค่อนข้างหยาบกว่าแบบแรกที่หาลัคนาเวลาเกิด...ซึ่งลัคนาแบบที่เราใช้เวลาตกฟาก...ลัคนาคือจุดตัดของเส้นสุริยะ วิถีที่พระอาทิตย์โคจรและแกนขอบฟ้าของโลกทางทิศตะวันออกที่เรียกว่า Horizon ในขณะที่พระอาทิตย์กำลังขึ้นสู่ขอบฟ้า..เช่นในเดือนเมษายน..พระอาทิตย์ขึ้นที่จุดตัดที่..ตรงกลุ่มดาวราศีเมษพอดีในตอนเช้า ฉะนั้นคนที่เกิดในตอนเช้า สมมติว่าเกิดเวลา 05.30-07.30 ขณะที่พระอาทิตย์ขึ้นก็จะกลายเป็นคนลัคนาเมษ...แต่ถ้าหากเกิดสายกว่านี้..เช่นเกิดเวลา..08.00น.ในวันเดียวกัน จุดตัดที่ว่านี้ และพระอาทิตย์ก็เคลื่อนออกมาตามเวลาผ่านไปกลุ่มดาวราศีพฤษภ..ดังนั้นคนที่คนที่เกิดวันเดือนปีเดียวกัน...แต่เป็นเวลา..08.00น.ก็กลายเป็นลัคนาพฤษภ..ไป...แล้วเราก็ไล่ไปตามลำดับราศี...จนครบ24ชม.จนครบ12ราศี...ไล่ไปถึงกลางคืนจนถึงเข้าเช้าวันใหม่ เราก็จะเห็นการหาลัคนาแบบนี้..ใน1วัน ก็จะมีครบ12ลัคนา..ซึ่งเป็นแบบที่ถูกต้องและละเอียดแม่นยำกว่า...///ส่วนราศี..คือ..ตำแหน่งดาวอาทิตย์สถิตในราศีต่างๆจะเคลื่อนย้ายประมาณกลางเดือน...เช่น..ราศีเมษ 13เมษา-14พฤษภา...ราศีตุลย์ 15ตค.-15พย...ฯลฯ.

         ง่ายๆนะ..คนเกิดวันเดือนปีเดียวกันแต่ดวงไม่เหมือนกัน ก็เพราะ..เวลาเกิด..ไม่ตรงกันนี่แหละ

 เขียนโดย อ.พิมพ์  พยากรณ์




คลิ๊กที่รูปเพื่อขยายใหญ่