30 ส.ค. 2558

วิชาทักษามหายุค

ทักษามหายุค คือ การศึกษาที่เกี่ยวกับระบบทักษาที่ใช้ ปี เดือน วัน ดิถีทางจันทรคติเพื่อให้ได้ดวงภพ ดวงชาติ และดวงทักษาพร้อมทั้งพระคาถาทั้ง ๔๘ องค์ใช้เป็นหลักในการพยากรณ์

สอนโดยอ.โนรี มีศิริ แม่มดโนรี(ครูโน)

วันพุธเวลา๑๐.๐๐-๑๒.๐๐น



29 ส.ค. 2558

วิชาเทคนิคการพยากรณ์

วิชาเทคนิคการพยากรณ์

      เป็นวิชาที่ว่าด้วยการพยากรณ์ การออกคำพยากรณ์และวิธีฝึกฝนการพยากรณ์ เพื่อให้การพยากรณ์ออกมามีความแม่นยำสร้างความมั่นใจให้ผู้พยากรณ์


เปิดสอนทุกวันเสาร์เวลา๑๓.๐๐-๑๕.๐๐น.


วิชาเลขศาสตร์

วิชาเลขศาสตร์

        เป็นศาสตร์ว่าด้วยเรื่องสถิติและพลังของตัวเลขที่ถูกรวบรวมค่าทางสถิติมานาน ถูกประยุกต์ใช้เป็นส่วนหนึ่งของโหราศาสตร์ไทย คนเราเกิดมาก็มีตัวเลขเข้ามาเกี่ยวข้อง ตั้งแต่เล็กจนโต แม้กระทั่งในชีวิตของทุกๆคนก็มีตัวเลขเข้ามาเกี่ยวข้อง อาทิเช่น เบอร์โทรศัพท์,บัตรประชาชน,ทะเบียนรถ,เลขที่บ้าน เป็นต้น

เรียนทุกวันอังคารเวลา  ๑๐.๐๐-๑๒.๐๐
และวันอาทิตย์ ๑๓.๐๐-๑๕.๐๐


26 ส.ค. 2558

คุยกับโหรป.โท ตอน : ความเข้าใจที่เปิดกว้างในอาชีพหมอดู


ผมเป็นคนหนึ่งที่ไม่มีความรู้ด้านโหรราศาสตร์ และไม่ชอบทางนี้เป็นอย่างมาก เหตุอาจจะเป็นเพราะผมเชื่อของผมว่า ไม่มีอะไรเลวร้ายเท่าการไม่เชื่อว่าตัวเองไม่สามารถเปลี่ยนชีวิตได้ด้วยตนเองได้ ผมเชื่อในชีวิตที่เราเลือกเองมากกว่าเอาดวงดาวบนท้องฟ้าหรือตัวเลขมากำหนดชีวิตเรา ฉะนั้นเรื่องโหราศาสตร์ ผมกลับมองเป็นเรื่องหนักไปทางงมงายมากกว่า


   อยู่มาวันหนึ่งผมก็ได้มีโอกาสพูดคุยแลกเปลี่ยนกับโหรที่ใช้ชื่อว่า "โหรปริญญาโท" ซึ่งเป็นญาติผู้ใหญ่ที่ผมเคารพรักคนหนึ่ง ก็ทำให้ผมได้เปิดโลกทัศน์สร้างความเข้าใจเรื่องโหราศาสตร์ในมุมที่กว้างขึ้น ซึ่งมันทำให้ผมได้เห็นถึงคุณค่าและประโยชน์ของวิชาโหราศาสตร์ได้มากขึ้นกว่าที่เคยคิดไว้ จึงอยากจะนำมาแบ่งปันให้ทุกท่านได้เรียนรู้ไปด้วยกันครับ


      ผม : หมอดูในความคิดผมนี้ ผมมองว่าเหมือนจิตแพทย์หรือผู้ให้การปรึกษาทางจิตนะครับ เพราะผมสังเกตว่าคนไทย หากมีปัญหาเรื่องจิตใจจะไปหาจิตแพทย์ก็กลัวคนอื่นมองว่าเป็นคนบ้า หันไปหันมาที่พึ่งทางเดียวที่มี คือ หมอดู ก็เลยตัดสินใจไปดูหมอดีกว่า


      โหรป.โทร : ที่พูดก็เห็นด้วยนะ เพราะคนสมัยนี้มีปัญหาทางจิตมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยภาวะเศรษฐกิจและการงานที่รุมเร้า บางคนหาเงินได้มากๆร่ำรวยใช่ว่าจะมีความสุข ยิ่งมีมากยิ่งทุกข์ และยิ่งเรียนสูงยิ่งทุกข์เมื่อมีปัญหาก็ไม่กล้าจะปรึกษาใคร เพราะทิฐิมานะสูง กลัวเสียฟอร์ม มาหาหมอดูดีกว่า เพราะยังไงเขาก็เก็บความลับเราได้ สบายใจกว่า


     ผม : แปลกนะครับ ทำไมเขาไว้ใจคนแปลกหน้าอย่างหมอดูมากกว่าจะเล่าให้ใครคนอื่นที่ไว้ใจได้อย่าง ญาติพี่น้องหรือคนในครอบครัว


     โหรป.โทร : ก็แสดงว่าเขาไว้ใจเราและหวังที่จะพึ่งพาคำแนะนำจากเรา ฉะนั้นหมอดูที่ดี คือ ต้องเก็บความลับเก่งถือเป็นจรรยาบรรณที่ไม่ควรแพ่งพรายเอาความลับของคนที่มาดูดวงไปบอกคนอื่น


     ผม : แล้วคุณสมบัติที่ดีและเด่นของหมอดูนี้มีอะไรอีกไหมครับ ?


    โหรป.โทร : คุณสมบัติสำคัญของหมอดูที่ดี คือ ต้องเป็นนักวิเคราะห์ที่รู้จักเสาะหาข้อมูลให้มากที่สุด ไม่ด่วนสรุป และที่สำคัญ คือ ต้องหมั่นเรียนรู้ ค้นคว้าและเก็บประสบการณ์อย่างต่อเนื่อง การเรียนรู้วิชาโหราศาสตร์ไม่มีวันจบ บางคนมาเรียนรู้เป็นปียังไม่กล้าพยากรณ์ก็มี แต่บางคนเรียนตั้งแต่อายุน้อยๆแต่กล้าพยากรณ์เก็บประสบการณ์จนยึดเป็นอาชีพเลี้ยงตัวได้ในระยะยาว


    ผม : แล้วคนที่มาดูดวงนี้ส่วนมากอยู่ในช่วงอายุเท่าไหร่ครับ ?


    โหรป.โทร : ตั้งแต่ 40 ขึ้นไป บางคนพื้นฐานการงานดีมากๆ แต่พอเริ่มมีปัญหาจะมีการเปลี่ยนงานเริ่มเครียดกันไม่ได้นอนไม่หลับ มาดูดวง ฉันก็ดูให้ ตามดวงว่าจะดีขึ้น  เขาก็ยิ้มออกกลับไปก็เป็นอย่างคำพยากรณ์ อย่างวัยรุ่นก็มาดูดวงกันเยอะนะ


    ผม : วัยรุ่นเนี่ยนะครับ ? เขามาดูด้วยหรอครับ ไม่น่าเชื่อเลย แล้วส่วนใหญ่เขาดูเรื่องอะไรกันครับ ?


   โหรป.โทร : ก็เป็นเรื่องความรัก แฟนไปมีคนอื่นหรือเปล่า? และเรื่องเกี่ยวกับการเรียนว่าจะสอบผ่าน สอบได้ไม? ประมาณนี้


   ผม : ขนาดวัยรุ่นยังมาพึ่งหมอดู น่าคิดนะครับ?


   โหรป.โท : บางคนกุ้มใจหนักเลยนะ ระแวงว่าแฟนจะมีคนอื่น? ตามดวงที่ดูก็บ่งชี้ว่าแฟนไม่ได้นอกใจ ฉันก็เลยแนะนำให้กลับไปทำตัวดีๆ พูดเพราะๆ หาข้าวหาน้ำให้แฟนทาน ปรนนิบัติตามแบบแฟนที่ดี อย่าพยายามพูดถึงเรื่องนี้อีก เพราะยิ่งจะทำให้เขาหงุดหงุดจนอยากจะไปมีคนอื่นจริงๆ  เขาก็ไปทำตามที่บอกแล้วทุกอย่างก็ดีขึ้นนะ


  ผม : เป็นเรื่องดีมากๆนะครับ เพราะผมเคยเห็นในข่าวบ่อยๆว่า เพียงแค่การระแวงกันระหว่างคู่รักถึงกับเกิดเหตุฆ่ากันตายเลยทีเดียว แต่นี้ยังดีหน่อยที่มาดูดวง กลับไปจะได้คืนดีกันโดยที่ไม่จบตรงการพรากชีวิตกัน เราก็เป็นเหมือนที่ปรึกษาหัวใจไปอีกบทบาทหนึ่งเลยนะครับ


 โหรป.โท : ใช่จ้า รู้สึกภูมิใจลึกๆนะว่าได้มีส่วนช่วยคนให้รักกันมากขึ้น


  ผม : และผมก็มองว่าคนที่กำลังจะทำร้ายตัวเองเช่นกัน หากไม่กล้าปรึกษาใครจริงๆ อย่างน้อยยังนึกถึงหมอดูและได้รับคำแนะนำดีๆมาแก้ปัญหาและชีวิตดีขึ้นจนไม่อยากฆ่าตัวตายแล้ว แบบนี้ก็ถือว่าเราได้ช่วยคนอีกทางด้วยใช่ไหมครับ?


 โหรป.โท : ถูกต้องค่ะ หากเราได้มีส่วนร่วมในการช่วยคนคนหนึ่งที่กำลังจะทำร้ายชีวิตตนเอง กลับมามองเห็นคุณค่าของตนเองได้ ฉันก็ยิ่งภูมิใจเหมือนได้ทำบุญอย่างหนึ่งนะ


 ผม : ฉะนั้น หมอดู คือ อาชีพหนึ่งที่มีคุณค่า เป็นวิชาชีพที่ต้องอาศัยหลักการวิเคราะห์ รวบรวมข้อมูล และรำ่เรียนได้แบบไม่รู้จบ ซึ่งการเป็นหมอดูที่ดีนั้น ต้องมีจรรยาบรรณสูง ไว้ใจได้ ซื่อสัตย์และเก็บความลับของคนมาดูดวงเป็นอย่างดี ส่วนคุณค่าของหมอดู คือ เสมือนเป็นที่ปรึกษาให้กับคนที่กำลังจะสิ้นหวังให้กลับฟื้นคืนมามองเห็นคุณค่าของชีวิตแล้วเดินต่อไปอย่างมีความหมาย
       ต้องขอบคุณมากนะครับที่สร้างความกระจ่างเกี่ยวกับมุมมองของโหรราศาสตร์และคุณค่าของอาชีพหมอดูมากยิ่งขึ้น


 โหรป.โทร : ด้วยความยินดีและโอกาสหน้าเจอกันใหม่จ้า โชคดีนะค่ะ

23 ส.ค. 2558

เหตุเกิดที่ตักศิลา (ตอนที่4) : ความเรียงเพื่อสร้างความเข้าใจด้านโหราศาสตร์อย่างลึกซึ้ง





ดวงยามวันที่ 3 สิงหาคม 2558  เวลา 18.30-19.30น.

          ตัวยามนี้โหรกระจาบ ได้มองเห็นตนุยามเป็นดาวอังคาร ๓  มีตำแหน่งเป็นนิจ และดาวจันทร์ ๒ เจ้าเรือนศุภะไปอยู่เรือนพันธุ  โหรกระจาบจึงมองไปว่าเอ.....เช่นนี้น่าจะกลับบ้านเพราะห่วงครอบครัวละมั๊ง อย่างนี้ แม้กุมอาทิตย์ มหาจักรก็ไม่น่าที่จะมีงาน  อีกอย่างดาวเสาร์ ๗  เจ้าเรือนสหัชชะ ก็กุมลัคณ์กุมดาวเกตุ ๙ น่าจะเป้นยามเดินทางละมั๊ง เมื่อโหรกระจาบวินิจฉัยแล้วจึงตอบไปว่า

          “เห็นอยู่สองช่วง คือช่วงบ่าย สี่ ถึงบ่ายสี่ ครึ่ง   และช่วง  หกโมงเย็นถึง หกโมงครึ่ง “

          “ผู้หญิงคนนั้นเธอถึงถามกลับมาว่า “อาจารย์ค่ะ มันไม่มีอีกรอบหรือค่ะ”   เธอถามพร้อมกับมองตาโหรฯกระจาบ

          “อืมถ้าเลยเวลานั้นไปผมคิดว่าไม่น่าจะมีงานชัดเจนนะครับ ถ้าเป็นการต่อเนื่องจากเวลา 18.30 หนะใช่แต่หลังจากนั้นผมไม่เห็นอีก แต่ถ้าหมายถึงสามคน ก็น่าจะอยู่ในรอบบ่าย 4 ถึงบ่ายสี่ครึ่งครับ”

          “แค่นั้นหรือค่ะอาจารย์”  เธอถามอีกเพื่อยืนยัน

          “ใช่ครับ ตามวิชาผมคิดว่าเช่นนั้น” โหรกระจาบยืนยันเสียงหนักแน่น แล้วมองไปทางผู้หญิงผู้ที่ถามเรื่อง ซึ่งตอนนี้เธอกำลังค้นของในกระเป๋าถือออกมา เธอหยิบเอกสารออกมาแผ่นหนึ่ง

          “นี่ค่ะอาจารย์ใบนัดลูกค้าหนู  มีเวลา บ่าย 4   1คน    บ่าย สี่ครึ่ง 1คน  และ หกโมงครึ่งหนึ่งคนคะ  อาจารย์แม่นมาก แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเขาจะมาตามเวลา หนูขอนั่งรอลูกค้าตรงนี้ได้ไหมค่ะ แล้วเวลาของอาจารย์มีคลาดเคลื่อนไหมค่ะ”

“มีครับฤดูกาลนี้ เวลาจะคลาดเคลื่อนจากท้องฟ้าประมาณ  5-8 นาที ถ้าจะเอาแบบเผื่อเวลาด้วยก็น่าจะ บวกหน้า10 บวกหลัง 10ครับ   เชิญนั่งรอได้ครับ “

 โหรฯกระจาบคิดในใจว่า  ....อืมแรงจริงแม่คุณ... เอาตัวรอดได้อีกครั้งแล้วเรา แต่..ถ้าลูกค้าเธอไม่มาตามนัดเราคงเสียชื่อเป็นแน่  ไงๆก็รอดไปด่านหนึ่งละ
          โหรกระจาบก็ยิ้มให้ผู้หญิงที่ถามและ นั่งคุยกับลูกศิษย์คนอื่นต่อ จนเวลาล่วงเลย ไปในช่วง  15.50 นาฬิกา มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ผู้หญิงคนดั่งกล่าวก็รับสาย หลังจากรับสายเสร็จเธอก็หันมา

          “อาจารย์ค่ะ  ลูกค้าหนูโทรมาแล้วบอกว่ากำลังข้ามสะพานลอยอยู่อีกไม่เกิน 10นาทีจะถึงค่ะ  อาจารย์ค่ะ หนูขอลงเรียนค่ะ  วิชาอาจารย์แม่นใช้ได้ หนูจ่ายเงินเลยนะคะ” เธอพูดอย่างดีใจ และยื่นเงินค่าสมัครเรียนให้กับเจ้าหน้าที่ แล้วเธอก็รีบวิ่งลงไปรับลูกค้า

          โหรกระจาบถอนหายใจ บ่นพึมพำกับตัวเองว่า  เหนื่อยแท้คนเราแรงจริงแม่คุณ

          คุณนายสามสีพูดออกมาว่า    “อาจารย์ค่ะเธอเป็นหมอดูไพ่ยิปซีที่นั่งอยู่ข้างล่าง เธอดูดวงอยู่เป็นอาชีพ โดยทั่วไปเวลาทุ่มเศษเธอก็จะกลับบ้านค่ะ แต่งานนี้อาจารย์เจอลองของชัดๆ แต่ดีนะคะ อาจารย์เอาอยู่”

          “อืมอย่าคิดว่าเธอลองวิชาเลยครับ  การที่เรียนกับใครสักคน ถ้าคนคนนั้นไม่สามารถตอบคำถามเราได้ มันก็ไม่แปลกที่เราจะไม่เรียน  และไม่แปลกที่เราจะเลือกที่จะเรียนกับคนที่ตอบคำถามเราได้ เป็นธรรมดาครับ  แต่นี่ถ้าผมตอบไม่ถูก ผมก็ห่วงพวกคุณจะถูกเอาไปพูดในทางไม่ดีกับหมอดูที่อยู่ข้างล่างซึ่งก็มีหลายคน ครั้งนี้ถือว่าเป็นความแข็งแกร่งของวิชา  และวิชานี้เป็นวิชายามที่สามารถพยากรณ์ไล่เวลาได้   แต่มันเหนื่อยและที่สำคัญผมเองไม่นิยมทายอะไรที่เหนื่อยๆครับ  และพวกคุณไม่ต้องมาถามผมแบบนี้นะผมเหนื่อย”


          การไขว่คว้าหาครูที่จะประสิทธิประสาทวิชาให้นั้นก็ยากการที่จะพบครูที่ใช่ก็ยาก  สิ่งเหล่านี้มีบุพกรรมที่เรียกว่าวาสนาเป็นองค์ผูกพันธ์    การที่ศิษย์จะทดลองครู หรือครูทดลองศิษย์เป็นเรื่องสามัญ แต่ควรอยู่มารยาทในสังคมที่ถูกต้อง ครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นครั้งที่ผู้ที่จะมาเป็นศิษย์มาทดลองครู อีกครั้งหนึ่ง และก็ถือว่าคงเป็นวาสนาที่พยากรณ์ได้พอเอาตัวรอด  โลกของการศึกษาเล่าเรียนวิชาพยากรณ์ ก็ยังคงจะมีการสืบสานต่อไป จากรุ่นสู่รุ่น จวบจนสิ้นวาสนาแห่งวิชา

เขียนโดย อ.พายัพ วชิโร

22 ส.ค. 2558

เหตุเกิดที่ตักศิลา (ตอนที่3) : ความเรียงเพื่อสร้างความเข้าใจด้านโหราศาสตร์อย่างลึกซึ้ง



โหรกระจาบนั่งมองดวงยามปัจจุบันอยู่ แล้วคิดตรองไปว่า เอ...ยามปัจจุบันนี้ตัวยาม เรือนกรรมะนั้นไม่ดี เพราะอังคาร ๓ ดาวเจ้าเรือนกรรมะ มีตำแหน่งเป็นนิจ   เอ......... มีมฤตยู  ๐ อยู่ร่วมด้วย อืมยามเช่นนี้ไม่มีงานแน่   การเลื่อนเวลา??... ใช่ยามนี้คงไม่มีจริงๆ เพราะเจ้าเรือนที่อังคาร  ๓  อาศัยนั้นก็ไปมรณะยาม


ดวงยามวันที่ 3 สิงหาคม 2558 เวลา 14.30-15.30

          เมื่อโหรฯกระจาบมองเช่นนั้น  จึงคิดไปที่ลักษณะการเลื่อนเวลาตามที่กลุ่มโหรฯในอดีต ที่ร่วมถกวิชาที่ กฏิหลวงลุงเสริม ใช้กัน  โหรฯกระจาบจึงเลื่อนเวลาไปอีก  เป็นเวลา  15.30-16.30


ดวงยามวันที่ 3 สิงหาคม 2558 เวลา 15.30-16.30

          โหรกระจาบมองยามเวลาถัดไปอีกครั้ง ตัวลัคณายามตกที่ราศีสิงห์ มองเห็นดาวศุกรืกรรมะของยาม กุมลัคณายาม จึง คิดไปว่ายามนี้ต้องมีงานแน่ๆ  แต่ถ้ามีลูกค้า ก็ต้องมีในช่วงเวลา ประมาณ  16.02.30 นาฬิกา ถึงเวลา 16.07.30 นาฬิกา ก็คงประมาณ บ่าย 4 เศษๆแน่ เพราะเวลายามจะตกราศีพฤษก กรรมะยาม และอีกคนก็ต้องเวลา 16.28.30  เพราะใกล้ 4 โมงครึ่ง  แต่เอ....และเวลาต่อไปจะมีอีกไหม


       ยามดวงยามวันที่ 3 สิงหาคม 2558
                  ดวงยามเวลา 16.30-17.30น                            ดวงยามเวลา 17.30-18.30 น.

          ในดวงยามเวลา 16.30-17.30 นั้น กรรมะยามตกวินาศ์ จึงไม่น่าที่จะมีงานเข้ามาในระยะเวลาดั่งกล่าวจึงตัดออกไป  มาถึงดวงยามในเวลา 17.30-18.30น.  ดาวตนุ  ๖ ศุกร์ ไปตกลาภะ ๑ อาทิตย์ และ ๑ อาทิตย์ไปตกกรรมะ เรือนจันทร์ ๒ จึงมีโอกาสที่จะมีงานอีกครั้ง ผมก็มองไปที่เวลา 18.28 ตรงที่เวลาทับลัคณายาม  เพราะมันกล่าวว่าเจ้าชะตาจะได้ลาภเรื่องงาน  แล้วหลังจากเวลานี้จะมีอีกไหม  โหรฯกระจาบจึงตรวจทานอีกเวลาหนึ่ง


โปรดติดตามตอนต่อไป......


เขียนโดย อ.พายัพ วชิโร

20 ส.ค. 2558

เหตุเกิดที่ตักศิลา (ตอนที่2) : ความเรียงเพื่อสร้างความเข้าใจด้านโหราศาสตร์อย่างลึกซึ้ง



โหรกระจาบมองด้วยความสงสัยและเห็นมุมความคิดของผู้หญิงคนนี้  เธอคงเป็นหนึ่งในคนที่เคยสนใจในโหราศาสตร์ แต่คงไม่ได้มีโอกาสในการพบกับคำว่าใช่ในจิตใจของเธอ 
“เอาสิจะถามเรื่องอะไรละ”
“หนูจะถามยามตอนนี้ว่าหนูคิดอะไรอยู่”
โหรฯกระจาบ เหลือบมองนาฬิกาที่อยู่บนฝาพนังแล้วนึกถึงดาวจรที่โคจรอยู่ในปัจจุบัน ณ.ตอนนั้นเวลาประมาณ 15.10 น.



ดวงยามนาฬิกา วันที่ 3 สิงหาคม 2558 เวลา 15.10 น.

โหรกระจาบมองจุดเวลา ที่ตกอยู่ ที่วินาศ์ของยาม ในเรือนพุธ  ๔  พอเห็นดาวพุธ ๔ เป็นมหาจักร เป็นเจ้าเรือนวินาศ์มาอยู่กะดุมภะ และอยู่ร่วมกับ  ดาวพฤหัส  ๕ และศุกร์  ๖ ในราศีสิงห์  ซึ่งอยู่เรือนอาทิตย์ ๑ และอาทิตย์เป็นมหาจักร  จึงคิดในใจว่า “เช่นนี้ถ้าไม่อธิบายและแสดงให้เห็นก็คงจะไม่เชื่อแน่ “  โหรกระจาบจึงตอบว่า

ตอนนี้คุณคงมีความไม่เชื่อ ในวิชาที่ผมบรรยายไป ครับเป็นผมผมก็คงจะเชื่อยาก  อีกอย่างหนึ่งตามยามคุณคิดว่าถ้าผมตอบคำถาม ในวิชาการและสิ่งที่คุณอยากรู้ไม่ได้คุณก็จะไม่ลงเรียน   เพราะตามยามหมายถึงคุณเป็นคนเชื่อคนยาก และในสายตาของคุณอาจจะไม่ค่อยเชื่อถือวิชาโหราศาสตร์เท่าไหร่นัก

เธอมองแล้วนิ่งๆ แล้วเธอถามต่อว่า  “อาจารย์ค่ะแล้วหนูจะลงเรียนในวิชาของอาจารย์หรือเปล่าค่ะ  อาจารย์ลองจับยามอีกทีเป็นตัวอย่าง”

โหรกระจาบ มองยามแล้วพิเคราะห์ดู  ตามตัวยาม แม้วินาศ์จะเป็นพุธ ๔ มาร่วมในกระดุมภะ   ๑ แต่ดาวกระดุมภะมาอยู่ที่ตัวลัคณา  เมื่อเราถูกเป็นผู้ร่วมในยามและเป็นผู้ถูกถาม  เราก็คือตัวลัคณา  เมื่อกะดุมภะจะได้มาจากวินาศ์..........

“ผมขอตอบว่า คุณจะได้ลงเรียนแน่นอน ครับ”    จะไม่ลงเรียนได้อย่างไรเล่าเมื่อยามบอกว่าผมต้องได้เงินจากคุณ  โหรกระจาบแอบคิดในใจ

เธอก็นิ่งอีก  “อาจารย์ค่ะหนูจะขอเป็นตัวอย่างอีกครั้งครั้งสุดท้าย คือหนูจะถามว่า วันนี้หนูจะมีลูกค้าไหมค่ะ  และถ้ามีจะมีลูกค้ากี่คนกี่รอบ เวลาไหนบ้าง”


โหรกระจาบพิจาราณาคำถามแล้วนึกใจในว่า อืมคำถามยากนะนี่ ไอ้มีลูกค้าไหมตอบไม่ยาก แต่กี่รอบและเวลาไหนท่าจะยากหน่อย โหรฯกระจาบก็นึกถึง หลวงลุงเสริม  (พระอุดมศีลคุณ  เสริม สุวฑฺฒโน) ท่านเป็นผู้ที่ใช้วิชายามนาฬิกานี้อย่างโดดเด่น สามารถพยากรไล่เวลาจากยามนาฬิกาได้.....ถ้าท่านพยากรณได้ เอาน่าวิชาต้องมีดี

โปรดติดตามตอนต่อไป......

เขียนโดย อ.พายัพ วชิโร

18 ส.ค. 2558

เหตุเกิดที่ตักศิลา (ตอนที่1) : ความเรียงเพื่อสร้างความเข้าใจด้านโหราศาสตร์อย่างลึกซึ้ง

       


       ในการเรียนและการศึกษาโหราศาสตร์นั้นผู้ที่เข้ามาศึกษาย่อมมีความตั้งหวังในวิชา  บ้างเพื่อเอาไว้ช่วยเหลือและตรวจดูดวงชะตาของคนใครอบครัว  บ้างเพื่อสร้างโอกาสในสังคมการงาน  บ้างก็ใช้เป็นสื่อในการรู้จักบุคคลอื่นเพื่อผลประโยชน์ที่ตนมุ่งหวัง  บ้างก็เพื่อประดับความรู้  บ้างก็เพื่อเป็นอาชีพ 

          แสงแดดเริ่มสาดแสงส่องผ่านช่องหน้าต่าง พร้อมกับไอเย็นของสายฝนที่พร่ำมาตลอดทั้งคืน  ย่างเข้าฤดูฝนอีกครั้งหนึ่ง  ฤดูฝนครั้งนี้ฝนตกคลาดเคลื่อนไปจากเดิมหลายสัปดาห์ เนื่องจาก ตามหลักโหราศาสตร์แล้ว  หากเมื่อใด ดาวพระศุกร์ ๖ นั้นมีดาวราหู ๘ จรเข้ามาต้องกันครั้งใด ก็จะเกิดการคลาดเคลื่อนของฤดูกาลขึ้น  ทำให้ฝนตกไม่ปรกติ รวมถึงฝนจะแล้ง ข้าวของต่างๆจะแพงขึ้นตามการบริโภค ในปีนี้ก็เช่นกัน ฤดูฝน ฝนก็ต้องไปต้องตามฤดูกาล พออังคาร ๓ เข้าสู่มิถุน ก็พัดเอาเมฆฝนไปตกในที่อื่นหมด  ดาวอังคารนี้ทำผลร่วมกับกระแสดาวราหู  ๘  ที่จรอยู่ในราศีกันย์เนื่องจาก ร่วมเรือนเกษตรเดียวกันคือดาวพุธ ๔   เมื่อราหู ๘ โคจร เล็งพระศุกร์ ๖ เดิมในดวงเมืองที่ราศีมีนจึงทำให้ฝนคลาดเคลื่อนไป  โชคดีที่พระศุกร์ ๖ นั้นโคจรร่วมกับดาวพฤหัส ๕ ในราศีสิงห์ ทำให้ฝนเริ่มตก   หนึ่งสัปดาห์แล้วที่ฝนค่อยๆตกลงมา พัดพาความเย็น สู่พื้นที่  พัดพาน้ำฝนสู่ไร่นา แต่ก็เถอะนะ  พระ ศุกร์ ๖ ที่ไปร่วมกระแสกับพฤหัส ๕ จรนี้ ที่ราศีสิงห์ที่เป็นราศีธาตุไฟ ฝนก็คงตกสลับกับอากาศที่ร้อน แต่ก็ยังดีกว่าไม่ตก

วันแรกที่เป็นวันที่แสนยุ่งยาก  เพราะเป็นวันที่ต้องเริ่มสอนในสถานที่ใหม่  โหรฯกระจาบ รับปากลูกศิษย์ที่เริ่มเปิดสำนักของตนเองว่าจะไปช่วยสอนให้เพื่อเป็นการแสดงน้ำใจที่อาจารย์มีต่อศิษย์  ซึ่งสถานที่นั้นค่อนข้างใกล้บ้านของโหรกระจาบมาก  โหรกระจาบ เมื่อได้ตบปากรับคำจึงเตรียมตัวเพื่อจะเริ่มสอนในสถานที่ใหม่ที่เป็นสำนักใหม่ของลูกศิษย์ ซึ่งทางลุกศิษย์แจ้งว่าจะมีการเปิดครอสสอนกันในวันจันทร์ ที่  ๓  สิงหาคม  ซึ่งก็ถือว่าเป็นการเรียนการสอนวิชายามนาฬิกาครั้งแรกที่สำนักนี้

คุณนายสามสีออกมายิ้มทักทายต้อนรับ  “สวัสดีค่ะอาจารย์”   โหรกระจาบก็ยิ้มรับ
“อาจารย์ค่ะหนูมีข้าวเที่ยงรอเตรียมรออาจารย์ไว้ อาจารย์ทานข้าวก่อนนะค่ะ”  คุณนายสามสีพูดไปแล้วก็รีบไปตระเตรียมอาหาร 
พี่ยา ผู้เป็นคนริเริ่มในการตั้งสำนักที่นี่ ก็ได้ยิ้มทักทาย  ทั้งสามก็คุยกันอย่างสนุกสนาน  ลูกศิษย์ที่ลงชื่อไว้ต่างก็ทยอยมา  พอได้เวลาสอน ก็เริ่มทักทายแนะนำตัวกัน ซึ่งก็มีผู้สนใจวิชายามนาฬิกาอยู่มาก   แต่ส่วนมากเป็นผู้หญิง อาจจะเป็นเพราะผู้หญิงนั้นมีความละเอียดละอ่อนในจิตใจสูงจึงชมชอบวิชาที่สามารถรู้ถึงบุคคลที่อยู่ตรงหน้า รู้ถึงคุณค่าชีวิต จึงสอนใจมาศึกษาศาสตร์สายนี้

เมื่อสอนไปสักระยะหนึ่งก็มีผู้หญิงคนหนึ่ง ท่าทางให้ความสนใจ เดินเข้ามานั่งฟังบรรยายวิชายามนาฬิกาอยู่ อายุอานามของเธออยู่ในวัย 45-52  แต่ริ้วรอยนั่นแสดงถึงความตรากตรำ  ความอดทน และความตั้งหวัง


  โหรฯกระจาบ บรรยายไปร่วม สองชม.เศษ จึงยุติการอบรมในวันนั้น และนั่งคุยสาระทุกข์สุกดิบเพื่อทำความรู้จักกับศิษย์ใหม่ๆ 

โปรดติดตามตอนต่อไป......

เขียนโดย อ.พายัพ วชิโร

14 ส.ค. 2558

อาชีพโหรกับศักดิ์ศรีเพื่อไม่ให้คนมองเป็นแค่หมอเดา


อาชีพโหรในปัจุบันเป็นอาชีพอิสระ ไม่จำกัดอายุและการศึกษา ผู้ที่มีความตั้งใจจริงและเปิดใจกว้างในการรับฟังผู้คน สามารถที่จะก้าวสู่อาชีพโหรได้

สมัยโบราณโหร คือ ผู้ทรงคุณวุฒิ เป็นที่เคารพของคนทั่วไป และมักมีความใกล้ชิดกับชนชั้นสูงอยู่มาก อาชีพโหรมักถูกจำกัดอยู่ในสกุลที่สืบต่อกันมาเป็นรุ่นๆ ซึ่งมีความเข้มงวดในการประพฤติปฏิบัติเพื่อควบคุมมาตรฐานอาชีพไม่ให้เกิดความเสื่อมเสีย ซึ่งนอกจากจะเสื่อมเสียในวงวิชาชีพแล้วยังเสื่อมเสียไปถึงวงค์ตระกูลอีกด้วย เพราะเหตุนี้ อาชีพโหรจึงเป็นอาชีพที่ได้รับการนับถือและยกย่องในสังคมไทยสมัยโบราณเป็นอย่างมาก

ปัจจุบันอาชีพโหรเริ่มมีผู้คนให้ความสนใจและยึดเป็นอาชีพมากขึ้น มักพบได้ทั่วไปพร้อมด้วยนามที่เรียกกันจนติดปากว่า "หมอดู" ซึ่งต่างได้รับการถ่ายทอดจากหลากหลายอาจารย์และหลากหลายรูปแบบ ซึ่งโหรแต่ละท่านก็ได้รับการยอมรับในระดับที่แตกต่างกันไป ทั้งนี้ขึ้นกับหลากหลายปัจจัย แต่สิ่งสำคัญ คือ เจตนาและการยึดมั่นคุณธรรมความดี มีจิตใจเมตตาที่อยากจะช่วยเหลือแนะนำคนอื่นด้วยความจริงใจ ซื่อสัตย์ต่อการออกคำพยากรณ์ไม่เพียงมองแต่เรื่องเงินค่าตอบแทนเป็นที่ตั้ง

เราชาวอาชีพโหรช่วยมาร่วมด้วยช่วยกันรักษามาตรฐานเพื่อสร้างความศักสิทธิ์และมาตรฐานวงการโหราศาสตร์ไทยให้พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่องยืนยาว เพื่อไม่ให้ใครมาตราหน้าอย่างดูแคลนว่า "หมอดู คู่กับหมอเดา" กันเถอะค่ะ

ขัตติยวรรษ  ประสิทธิ์ เขียน
ภาสกร  ผุยพงษ์ เรียบเรียง


13 ส.ค. 2558

วิชาโหราศาสตร์ไทยเบื้องต้น

วิชาโหราศาสตร์ไทยเบื้องต้น

ปูพื้นฐานสู่ความเป็นนักโหราศาสตร์มืออาชีพ
วิชาพื้นฐานการเรียนรู้เรื่องจักรราศี,ดาว,ภพและการผูกดวง ซึ่งจะช่วยให้การเรียนวิชาอื่นๆง่ายขึ้นได้

เปิดสอนทุกวันอังคาร เวลา 13.00 – 15.00 .
เริ่ม 11 สิงหาคม 2558

โดย อ.ขัตติยวรรษ ประสิทธิ์ และ อ.พิมพ์ พยากรณ์



5 ส.ค. 2558

เทคนิคการพยากรณ์ให้แม่นยำ



การพยากรณ์ คือ การออกคำทำนาย ที่มีวัตถุประสงค์สำคัญที่เน้นไปที่ความแม่นยำ ซึ่งยึดหลักเหตุและผลตามหลักวิชาการ ไม่ใช่พยากรณ์แบบตามใจผู้มารับการพยากรณ์

ผู้พยากรณ์ต้องมีสมาธิและความนิ่งอย่างแรงกล้าในการวิเคราะห์คำพยากรณ์  ซึ่งคำพูดต้องชัดเจน สม่ำเสมอ ต้องมีความมั่นใจ น้ำเสียงไม่แปรเปลี่ยนตามสถานการณ์ ซึ่งจะทำให้ผู้รับคำพยากรณ์มีความมั่นใจมากขึ้น

นักพยากรณ์ต้องหมั่นเก็บประสบการณ์ในการออกพยากรณ์ เพื่อเพิ่มพูนทักษะ กระบวนการในการเปลี่ยนความคิด วิเคราะห์ เป็นคำพูดที่เหมาะสม ผ่านการเรียบเรียงและไตร่ตรองมาดี ออกคำพยากรณ์เป็นเรื่องเล่าน่าฟังไม่ใช่เพียงแค่การตอบคำถามตรงๆจนดูไม่น่าฟัง

เคล็ดลับเสริมความมั่นใจในการพยากรณ์ คือ ฝึกการพยากรณ์ด้วยการเขียนก่อนและพูดตามที่เขียน จนคล่องก็จะสามารถพยากรณ์ได้โดยที่ไม่ต้องอ่าน

หลักการเรียบเรียงหัวข้อการพยากรณ์ สามารถเรียบเรียงได้ตามหัวข้อดังนี้

  • เรื่องราวชีวิตเป็นอย่างไร ?
  • ดวงเดิมเป็นอย่างไร ?
  • ปัจจุบันเป็นอย่างไร ?
การพยากรณ์เป็นเรื่องราวชีวิตตามความเป็นจริง ต้องวิเคราะห์ให้ดีว่าเหตุการณ์นั้นเพิ่งเกิดขึ้นหรือเกิดขึ้นมานานแล้ว ต้องแยกแยะให้ชัด และต้องวิเคราะห์ให้ลึกและรอบด้าน ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะนำสู่ความแม่นยำของการพยากรณ์