18 ส.ค. 2558

เหตุเกิดที่ตักศิลา (ตอนที่1) : ความเรียงเพื่อสร้างความเข้าใจด้านโหราศาสตร์อย่างลึกซึ้ง

       


       ในการเรียนและการศึกษาโหราศาสตร์นั้นผู้ที่เข้ามาศึกษาย่อมมีความตั้งหวังในวิชา  บ้างเพื่อเอาไว้ช่วยเหลือและตรวจดูดวงชะตาของคนใครอบครัว  บ้างเพื่อสร้างโอกาสในสังคมการงาน  บ้างก็ใช้เป็นสื่อในการรู้จักบุคคลอื่นเพื่อผลประโยชน์ที่ตนมุ่งหวัง  บ้างก็เพื่อประดับความรู้  บ้างก็เพื่อเป็นอาชีพ 

          แสงแดดเริ่มสาดแสงส่องผ่านช่องหน้าต่าง พร้อมกับไอเย็นของสายฝนที่พร่ำมาตลอดทั้งคืน  ย่างเข้าฤดูฝนอีกครั้งหนึ่ง  ฤดูฝนครั้งนี้ฝนตกคลาดเคลื่อนไปจากเดิมหลายสัปดาห์ เนื่องจาก ตามหลักโหราศาสตร์แล้ว  หากเมื่อใด ดาวพระศุกร์ ๖ นั้นมีดาวราหู ๘ จรเข้ามาต้องกันครั้งใด ก็จะเกิดการคลาดเคลื่อนของฤดูกาลขึ้น  ทำให้ฝนตกไม่ปรกติ รวมถึงฝนจะแล้ง ข้าวของต่างๆจะแพงขึ้นตามการบริโภค ในปีนี้ก็เช่นกัน ฤดูฝน ฝนก็ต้องไปต้องตามฤดูกาล พออังคาร ๓ เข้าสู่มิถุน ก็พัดเอาเมฆฝนไปตกในที่อื่นหมด  ดาวอังคารนี้ทำผลร่วมกับกระแสดาวราหู  ๘  ที่จรอยู่ในราศีกันย์เนื่องจาก ร่วมเรือนเกษตรเดียวกันคือดาวพุธ ๔   เมื่อราหู ๘ โคจร เล็งพระศุกร์ ๖ เดิมในดวงเมืองที่ราศีมีนจึงทำให้ฝนคลาดเคลื่อนไป  โชคดีที่พระศุกร์ ๖ นั้นโคจรร่วมกับดาวพฤหัส ๕ ในราศีสิงห์ ทำให้ฝนเริ่มตก   หนึ่งสัปดาห์แล้วที่ฝนค่อยๆตกลงมา พัดพาความเย็น สู่พื้นที่  พัดพาน้ำฝนสู่ไร่นา แต่ก็เถอะนะ  พระ ศุกร์ ๖ ที่ไปร่วมกระแสกับพฤหัส ๕ จรนี้ ที่ราศีสิงห์ที่เป็นราศีธาตุไฟ ฝนก็คงตกสลับกับอากาศที่ร้อน แต่ก็ยังดีกว่าไม่ตก

วันแรกที่เป็นวันที่แสนยุ่งยาก  เพราะเป็นวันที่ต้องเริ่มสอนในสถานที่ใหม่  โหรฯกระจาบ รับปากลูกศิษย์ที่เริ่มเปิดสำนักของตนเองว่าจะไปช่วยสอนให้เพื่อเป็นการแสดงน้ำใจที่อาจารย์มีต่อศิษย์  ซึ่งสถานที่นั้นค่อนข้างใกล้บ้านของโหรกระจาบมาก  โหรกระจาบ เมื่อได้ตบปากรับคำจึงเตรียมตัวเพื่อจะเริ่มสอนในสถานที่ใหม่ที่เป็นสำนักใหม่ของลูกศิษย์ ซึ่งทางลุกศิษย์แจ้งว่าจะมีการเปิดครอสสอนกันในวันจันทร์ ที่  ๓  สิงหาคม  ซึ่งก็ถือว่าเป็นการเรียนการสอนวิชายามนาฬิกาครั้งแรกที่สำนักนี้

คุณนายสามสีออกมายิ้มทักทายต้อนรับ  “สวัสดีค่ะอาจารย์”   โหรกระจาบก็ยิ้มรับ
“อาจารย์ค่ะหนูมีข้าวเที่ยงรอเตรียมรออาจารย์ไว้ อาจารย์ทานข้าวก่อนนะค่ะ”  คุณนายสามสีพูดไปแล้วก็รีบไปตระเตรียมอาหาร 
พี่ยา ผู้เป็นคนริเริ่มในการตั้งสำนักที่นี่ ก็ได้ยิ้มทักทาย  ทั้งสามก็คุยกันอย่างสนุกสนาน  ลูกศิษย์ที่ลงชื่อไว้ต่างก็ทยอยมา  พอได้เวลาสอน ก็เริ่มทักทายแนะนำตัวกัน ซึ่งก็มีผู้สนใจวิชายามนาฬิกาอยู่มาก   แต่ส่วนมากเป็นผู้หญิง อาจจะเป็นเพราะผู้หญิงนั้นมีความละเอียดละอ่อนในจิตใจสูงจึงชมชอบวิชาที่สามารถรู้ถึงบุคคลที่อยู่ตรงหน้า รู้ถึงคุณค่าชีวิต จึงสอนใจมาศึกษาศาสตร์สายนี้

เมื่อสอนไปสักระยะหนึ่งก็มีผู้หญิงคนหนึ่ง ท่าทางให้ความสนใจ เดินเข้ามานั่งฟังบรรยายวิชายามนาฬิกาอยู่ อายุอานามของเธออยู่ในวัย 45-52  แต่ริ้วรอยนั่นแสดงถึงความตรากตรำ  ความอดทน และความตั้งหวัง


  โหรฯกระจาบ บรรยายไปร่วม สองชม.เศษ จึงยุติการอบรมในวันนั้น และนั่งคุยสาระทุกข์สุกดิบเพื่อทำความรู้จักกับศิษย์ใหม่ๆ 

โปรดติดตามตอนต่อไป......

เขียนโดย อ.พายัพ วชิโร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น