ในการเรียนและการศึกษาโหราศาสตร์นั้นผู้ที่เข้ามาศึกษาย่อมมีความตั้งหวังในวิชา
บ้างเพื่อเอาไว้ช่วยเหลือและตรวจดูดวงชะตาของคนใครอบครัว บ้างเพื่อสร้างโอกาสในสังคมการงาน
บ้างก็ใช้เป็นสื่อในการรู้จักบุคคลอื่นเพื่อผลประโยชน์ที่ตนมุ่งหวัง บ้างก็เพื่อประดับความรู้ บ้างก็เพื่อเป็นอาชีพ
แสงแดดเริ่มสาดแสงส่องผ่านช่องหน้าต่าง
พร้อมกับไอเย็นของสายฝนที่พร่ำมาตลอดทั้งคืน
ย่างเข้าฤดูฝนอีกครั้งหนึ่ง
ฤดูฝนครั้งนี้ฝนตกคลาดเคลื่อนไปจากเดิมหลายสัปดาห์ เนื่องจาก ตามหลักโหราศาสตร์แล้ว หากเมื่อใด ดาวพระศุกร์ ๖ นั้นมีดาวราหู ๘
จรเข้ามาต้องกันครั้งใด ก็จะเกิดการคลาดเคลื่อนของฤดูกาลขึ้น ทำให้ฝนตกไม่ปรกติ รวมถึงฝนจะแล้ง
ข้าวของต่างๆจะแพงขึ้นตามการบริโภค ในปีนี้ก็เช่นกัน ฤดูฝน
ฝนก็ต้องไปต้องตามฤดูกาล พออังคาร ๓ เข้าสู่มิถุน ก็พัดเอาเมฆฝนไปตกในที่อื่นหมด ดาวอังคารนี้ทำผลร่วมกับกระแสดาวราหู ๘
ที่จรอยู่ในราศีกันย์เนื่องจาก ร่วมเรือนเกษตรเดียวกันคือดาวพุธ ๔ เมื่อราหู ๘ โคจร เล็งพระศุกร์ ๖
เดิมในดวงเมืองที่ราศีมีนจึงทำให้ฝนคลาดเคลื่อนไป
โชคดีที่พระศุกร์ ๖ นั้นโคจรร่วมกับดาวพฤหัส ๕ ในราศีสิงห์
ทำให้ฝนเริ่มตก หนึ่งสัปดาห์แล้วที่ฝนค่อยๆตกลงมา
พัดพาความเย็น สู่พื้นที่
พัดพาน้ำฝนสู่ไร่นา แต่ก็เถอะนะ
พระ ศุกร์ ๖ ที่ไปร่วมกระแสกับพฤหัส ๕ จรนี้ ที่ราศีสิงห์ที่เป็นราศีธาตุไฟ
ฝนก็คงตกสลับกับอากาศที่ร้อน แต่ก็ยังดีกว่าไม่ตก
วันแรกที่เป็นวันที่แสนยุ่งยาก
เพราะเป็นวันที่ต้องเริ่มสอนในสถานที่ใหม่
โหรฯกระจาบ
รับปากลูกศิษย์ที่เริ่มเปิดสำนักของตนเองว่าจะไปช่วยสอนให้เพื่อเป็นการแสดงน้ำใจที่อาจารย์มีต่อศิษย์
ซึ่งสถานที่นั้นค่อนข้างใกล้บ้านของโหรกระจาบมาก โหรกระจาบ
เมื่อได้ตบปากรับคำจึงเตรียมตัวเพื่อจะเริ่มสอนในสถานที่ใหม่ที่เป็นสำนักใหม่ของลูกศิษย์
ซึ่งทางลุกศิษย์แจ้งว่าจะมีการเปิดครอสสอนกันในวันจันทร์ ที่ ๓
สิงหาคม ซึ่งก็ถือว่าเป็นการเรียนการสอนวิชายามนาฬิกาครั้งแรกที่สำนักนี้
คุณนายสามสีออกมายิ้มทักทายต้อนรับ “สวัสดีค่ะอาจารย์” โหรกระจาบก็ยิ้มรับ
“อาจารย์ค่ะหนูมีข้าวเที่ยงรอเตรียมรออาจารย์ไว้
อาจารย์ทานข้าวก่อนนะค่ะ”
คุณนายสามสีพูดไปแล้วก็รีบไปตระเตรียมอาหาร
พี่ยา
ผู้เป็นคนริเริ่มในการตั้งสำนักที่นี่ ก็ได้ยิ้มทักทาย ทั้งสามก็คุยกันอย่างสนุกสนาน ลูกศิษย์ที่ลงชื่อไว้ต่างก็ทยอยมา พอได้เวลาสอน ก็เริ่มทักทายแนะนำตัวกัน
ซึ่งก็มีผู้สนใจวิชายามนาฬิกาอยู่มาก
แต่ส่วนมากเป็นผู้หญิง
อาจจะเป็นเพราะผู้หญิงนั้นมีความละเอียดละอ่อนในจิตใจสูงจึงชมชอบวิชาที่สามารถรู้ถึงบุคคลที่อยู่ตรงหน้า
รู้ถึงคุณค่าชีวิต จึงสอนใจมาศึกษาศาสตร์สายนี้
เมื่อสอนไปสักระยะหนึ่งก็มีผู้หญิงคนหนึ่ง
ท่าทางให้ความสนใจ เดินเข้ามานั่งฟังบรรยายวิชายามนาฬิกาอยู่
อายุอานามของเธออยู่ในวัย 45-52
แต่ริ้วรอยนั่นแสดงถึงความตรากตรำ
ความอดทน และความตั้งหวัง
โหรฯกระจาบ บรรยายไปร่วม สองชม.เศษ
จึงยุติการอบรมในวันนั้น และนั่งคุยสาระทุกข์สุกดิบเพื่อทำความรู้จักกับศิษย์ใหม่ๆ
โปรดติดตามตอนต่อไป......
เขียนโดย อ.พายัพ วชิโร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น