โดยเฉพาะครอบครัวของหนุ่ม
เขาเป็นคนจังหวัดสตูล
พ่อแม่มีอาชีพรับจ้าง
อดทนหาเงินส่งเสียจนเขาจบปริญญาตรี
ด้วยเหตุนี้จึงเป็นแรงกดดันที่ทำให้หนุ่มต้องเดินหน้าตาอิดโรยมาหาฉัน
บอกว่าอยากให้ฉันดูดวงให้
ฉันผูกดวงเขาอยู่เขาว่าผมมี ๑๐๐
บาทดูไดไหมครับ ?
ฉันมองหน้า
เขาเป็นคนขึ้นชื่อว่าหน้าตาดี ตัวสูงผิวคล้ำ
ตาคมตามลักษณะคนใต้
แววตาหม่นหมอง คล้ายคนอดหลับอดนอนมาหลายคืนแล้ว
เห็นแล้วฉันสงสารจับใจ
ฉันเอ่ยถามอย่างห่วงใย “คงทุกข์หนักสิลูก”
แต่ปากฉันก็บอกว่า ได้ แล้วเราก็คุยกันเรื่องดวงชะตาของเขา
เขาเล่าว่าเขากุ้มใจมาก
เพราะครอบครัวหวังในตัวเขามากเขาไปสอบนายสิบ
มาดูแล้วจะสอบได้ เขาว่าเขาทำข้อสอบได้ดีมาก
คะแนนที่แจ้งมากลับเป็นคะแนน ที่ห่วยมาก
เขาไม่เขื่อพร้อมกันนั้นก็พูดไปเรื่อยๆเหมือนคนขาดสติดิฉันก็ได้แต่
ฟัง
จนเขาดึงสติกลับมาได้
ฉันจึงบอกให้เขาชงกาแฟดื่ม
กาแฟหมดแล้ว เขาจึงดื่มน้ำแทน
ดื่มไป ก็ระบายความในใจที่อัดอั้นออกมาอย่างต่อเนื่อง.......
จนในที่สุดเขาก็ยิ้มได้
ฉันเลยถามเขาว่าหิวข้าวไหม
เขาว่าเขาไม่มีตังค์กินข้าวแล้ว
เพราะใช้เงินในการดูหมอมาหลายเจ้าแล้ว
ฉันได้แต่เพ้อว่า
โธ่ลูกเอย.
ฉันจึงเอาเงินค่าครูในพานให้. แล้วบอกให้เขาไปหาข้าวกิน
เพราะมันบ่ายแล้ว
ฉันเองก็หิว
เขายกมือไหว้ลาด้วยรอยยิ้มเศร้าๆ ตาลอยๆ
ฉันได้แต่บอกว่า ปล่อยวางบ้างเถอะหนุ่ม
นั้นคือ คำตอบสุดท้าย ที่ฉันตั้งใจมอบให้กับชายหนุ่มคนนั้น
----------------------------------------------------------------
เขียนโดย โหรป.โท
----------------------------------------------------------------
เขียนโดย โหรป.โท
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น